ARTISTIC LAB
14
“บางธุรกิจเราทำเพื่อผลกำไร แต่บางธุรกิจเราทำเพื่อเติมเต็มตัวตนของเรา ไม่มีอะไรขาดทุนถ้าเรามีความสุขกับมัน”
09 Jan. 2018
Artistic Lab ถ้าเอ่ยชื่อร้านนี้ขึ้นมาใครหลายๆ คนคงคุ้นเคยกับภาพ Café ที่ตกแต่งเรียบง่ายด้วยธีมสีขาวสะอาดตา มีความเป็นมินิมอลลิสต์และความกระจุ๋มกระจิ๋มแบบญี่ปุ่นซึ่งถูกจัดให้ลงตัวเป็นอย่างดีกับอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ต่างๆ ซึ่งนำมาเป็นเครื่องใช้ไม้สอยภายในร้าน ทว่าแท้ที่จริงแล้วการสอดแทรกความเป็นวิทยาศาสตร์แม้กระทั่งชื่อร้านที่มีคำว่า Lab ต่อท้ายถือเป็นแกนหลักของเรื่องราวที่ผมอยากจะนำเสนอ เรารู้จักกันดีอยู่แล้วว่า Artistic Lab เป็นร้านกาแฟที่ถูกจับตามองร้านหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่แต่น้อยคนนักจะรู้จักอีกมุมหนึ่งของร้านซึ่งถือเป็นแรงบันดาลใจทั้งหมดที่ทำให้ คุณ ณัฐกฤตา วังจันทร์ (ปิญน์) และ คุณ วิชญา ศรีเรือนทอง (มิ้ง) กล้าลุกขึ้นมาทำอะไรที่แตกต่างนอกกรอบจนเกิดเป็นร้าน Artistic Lab ขึ้นมา
ร้าน Artistic Lab นั้นถูกแบ่งออกเป็น 2 โซน เมื่อผ่านประตูร้านเข้ามาเราจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศของ Café สีขาวเรียบหรูที่มีกลิ่นอายของห้องวิทยาศาสตร์ ซึ่งในเมนูก็จะมีเมนูให้เลือกให้ลองหลากหลายและจะถูกจัดแบ่งแยกส่วนออกมาพร้อมให้เราทดลองเทปรุงจนหนำใจก่อนรับประทาน
ราคาเครื่องดื่มของที่นี่ถือว่าไม่ได้แพงมากและดูเหมือนว่าคอนเซ็ปต์ทั้งหมดนี้ก็เป็นที่ถูกอกถูกใจของผู้แวะมาเยี่ยมชมอยู่ไม่น้อย ประตูอีกบานกลางร้านเป็นจุดเชื่อมต่อเข้าไปยังโซนที่ 2 ในครั้งแรกที่ผมเห็นเข้าใจว่าเป็นคนละร้านกันเนื่องจากห้องฝั่งนี้เต็มไปด้วยบรรดาเครื่องสำอาง สบู่ แชมพู และน้ำหอม ซึ่งดูไม่น่าใช่สินค้าที่ส่งเสริมกันได้ดีเท่าไรกับร้านกาแฟ แต่เมื่อสอบถามดูจึงได้ความว่าเป็นร้านเดียวกันและ ณ ที่นี่เองผมก็ได้พบกับคุณ ปิญน์
_________________________________________________________________________________
จุดเริ่มต้นแห่งความฝัน
“ไม่ใช่เพียงแค่ร้านกาแฟ” เป็นคำกล่าวของคุณ ปิญน์ ที่กำลังง่วนอยู่หลังเคาน์เตอร์ซึ่งเต็มไปด้วยหลอดทดลอง
“จริงๆ แล้วปิญน์เป็นคนชอบน้ำหอมมาก เคยถามตัวเองหลายครั้งว่าจุดไหนที่เราทำแล้วมีความสุขสามารถอยู่กับมันได้ คำตอบในใจมันชัดมากว่าอยู่กับน้ำหอม”
จุดเริ่มจริงๆ ของคุณปิญน์เกิดขึ้นระหว่างเรียน คุณปิญน์เรียนจบมาจากคณะวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จะมีอยู่ครั้งหนึ่งที่ได้เรียนวิชาเกี่ยวกับอโรมาซึ่งเป็นวิชาเลือกวิชาหนึ่งในคณะ ถือเป็นการพบรักครั้งแรกกับเครื่องหอมก็ว่าได้แต่ก็ดูเหมือนว่าความรักนั้นจะเหมือนรักที่ไม่สมหวังนัก เนื่องจากพอจบการเรียนการสอนมาก็ไม่สามารถหาเรียนรู้อะไรต่อได้เลย จะมีก็แต่หนังสือที่พอให้หาซื้ออ่านได้รวมถึงการฝึกอบรมที่ใกล้เคียงแต่ก็ไม่ได้ตรงประเด็นเท่าไร มันจึงวกกลับมาที่ตัวเอง ก็มีเพียงตัวเองเท่านั้นที่พอจะพึ่งพิงได้การทดลองมากมายจึงได้เริ่มขึ้น
“เริ่มรับงานเล็กๆ น้อยๆ จากเพื่อน ก็ผลัดๆ กันดม ผลัดๆ กันวิจารณ์”
จริงๆ แล้ววิชาน้ำหอมไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเข้าใจ แต่การทดลองที่หลากหลายรวมเข้ากับความรู้เชิงเคมีเครื่องสำอางและกระบวนการเก็บข้อมูลที่เรียนมาก็พอจะเป็นเข็มทิศนำทางที่ดีได้ในระดับหนึ่ง
“Inspiration ล้วนๆ เลยค่ะที่ทำให้หนูเดินต่อได้ อาจจะฟังดูเหมือนคำทั่วๆ ไป แต่หนูก็หาคำพูดอะไรที่ดีกว่าคำนี้ไม่ได้จริงๆ”
แน่นอนว่าไม่ใช่กำลังใจเล็กๆ น้อยๆ แน่ ที่จะทำให้ผู้หญิงวัยรุ่นสองคนกล้าร่วมมือกันสร้าง Café ผสานเข้ากับธุรกิจเครื่องหอม แต่แน่นอนว่าการทำอะไรโดยที่ไม่มีแผนรองรับนั้นมีความเสี่ยงสูง แต่ก็โชคดีที่มีคุณมิ้งซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกันมากว่า 10 ปี ที่มีความเห็นคล้ายกันทำให้การระดมสมองจึงเกิดขึ้น การแบ่งโซนเพื่อเปิด café รวมถึงการขายของอื่นๆ และรับงานเกี่ยวกับเครื่องสำอางจึงเป็นการผสานกันจนก่อกำเนิดเป็น Platform เฉพาะที่กลายเป็นจุดเด่นของ Artistic Lab
_________________________________________________________________________________
อุปสรรคนั้นน้อยนักเมื่อเทียบกับความรักอันยิ่งใหญ่
เพียงแค่คิดว่าจะเดินเกมส์ธุรกิจน้ำหอมในไทยก็เกิดคำถามขึ้นมากมาย ดูๆ แล้วไม่มีอะไรที่จะง่ายเลยแม้แต่อย่างเดียว ผมถามตรงๆ ว่าการทำ Perfume Bar แบบ Le labo หรือ Erb เนี่ยเคยศึกษามาก่อนหรือเปล่า?
คำตอบที่ได้เป็นอะไรที่ทำให้ผมรู้สึกประทับใจมากๆ คุณปิญน์รู้ดีว่าการจะบอกเล่าเรื่องราวให้ลูกค้าเข้าใจไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เราไม่ได้ขายสินค้าแต่ขายบริการที่ต้องเอาใจใส่ลูกค้า ถึงแม้ทุกวันนี้จะมีลูกค้าเดินเข้ามาในโซนน้ำหอมน้อยกว่า café แต่จะมีเหตุผลอะไรที่ต้องหยุดทำเพราะนี่เป็นอีกตัวตนของ Artistic Lab เป็นความสุขของคุณปิญน์ที่จะได้บอกเล่าไปเรื่อยๆ บางธุรกิจเราทำเพื่อผลกำไร แต่บางธุรกิจเราทำเพื่อเติมเต็มตัวตนของเรา ไม่มีอะไรขาดทุนถ้าเรามีความสุขกับมัน
_________________________________________________________________________________
Lab กับ Café น่ารัก
ถ้าพูดถึง Lab ทุกคนคงนึกถึงห้องที่เต็มไปด้วยภาวะตรึงเครียด แต่ที่นี่เป็น Lab ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศสบายๆ Lab ของคุณ ปิญน์ นั้นใช้งานจริง มีการกั้นกระจกและโชว์ให้เห็นกระบวนการทำงานทุกขั้นตอน ตั้งแต่การทำกลิ่น การทดลองทำเบสเครื่องสำอาง การทำสบู่ แชมพู ทุกผลิตภัณฑ์ของลูกค้าล้วนออกมาจาก Lab น้อยๆ นี่แทบทั้งสิ้น รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่วางอยู่ตามมุมต่างๆ ของร้านก็ล้วนแล้วแต่มาจากห้อง Lab สุดแสนอัศจรรย์นี้
ในส่วนของ café และการ Collaborate ธีมทั้งหมดเป็นผลงานออกแบบของคุณมิ้งซึ่งจบแฟชั่นโดยตรงมาจากมหาวิทยาลัยแฟชั่นดีไซน์ราฟเฟิลส์ ประเทศสิงคโปร์ Café กับ Lab แท้จริงแล้วดูจะเป็นโลกที่อยู่กันคนละขั้ว ทั้งสองอย่างกลายเป็นสิ่งที่แสดงถึงความสามารถของคนทั้งสองคือคุณมิ้งและคุณปิญน์ ดังนั้นแล้วการผสานรวมกันของสองศาสตร์จึงเกิดเป็นเรื่องราวที่แปลกใหม่นามว่า Artistic Lab
_________________________________________________________________________________
อนาคตกับแบรนด์แสนเก๋
“ยอมรับว่าประสบการณ์ด้านกลิ่นของเรายังไม่ถึงขั้นเชี่ยวชาญเมื่อเทียบกับแบรนด์ชั้นนำ แต่หนูเองก็ยังคงศึกษาตลอด ยอมลงทุนไม่ได้เกี่ยงเรื่องจำนวนเงิน เราซื่อสัตย์กับลูกค้าอันไหนทำได้เราทำ อันไหนเราทำไม่ได้เราก็บอกไปตามจริง”
ความซื่อสัตย์เป็นพื้นฐานของการค้าขาย ไม่ใช่ว่าของไม่มีคุณภาพแต่ของที่ขายคือสินค้าที่มั่นใจที่สุดของทางร้าน มีการตรวจสอบครบถ้วนตามมาตรฐานแลปสากล คุณปิญน์ยังมีแนวทางจะไปศึกษาต่อทั้งในและต่างประเทศหากมีโอกาส ปัจจุบัน Artistic Lab ยังรับทำ OEM และมีสินค้าหลากหลายในนาม Artistic Lab
ราคาสำหรับ Perfume Bar จะอยู่ที่ 900 บาท โดยประมาณต่อครั้ง ซึ่งจะได้ทดลองทำน้ำหอมภายใต้คำแนะนำของคุณปิญน์ หากรู้สึกถูกใจอยากได้เป็นน้ำหอมขวดใหญ่ก็สามารถเลือกขวดและคำนวณราคาต่อกรัมตามจริงได้ครับ สำหรับผู้ที่รู้สึกอยากนำสูตรที่ลองทำไปขายต่อก็สามารถคุยกับทางร้านเพื่อคิดราคาค่าบริการบรรจุขวดพูดได้ว่าเป็นร้านที่ One Stop Service เลยก็ว่าได้ครับ
ในส่วนของ café และองค์ประกอบโดยรวมของร้านทางคุณมิ้งก็ยังมีการพัฒนาเรื่อยๆ ตามวิชาความรู้ทางการออกแบบที่เรียนมา ไม่ว่าจะคุณภาพอาหาร เครื่องดื่ม บรรยากาศ และ Event มันเลยทำให้ร้านเล็กๆ นี้เต็มไปด้วยพลังแห่งการขับเคลื่อนของคนรุ่นใหม่ ความตั้งใจทั้งหลายสัมผัสได้จากทุกๆ รายละเอียดที่สอดแทรกอยู่ในผลิตภัณฑ์และบริการ
ตอนนี้ร้านก็ดำเนินการมาจะครบหนึ่งปีแล้วซึ่งก็ถือว่าได้รับคำตอบรับที่ดีมาโดยตลอด หากใครมีโอกาสมาเชียงใหม่ก็อย่าลืมมาทักทายให้กำลังใจคุณมิ้งและคุณปิญน์ได้ที่ Artistic Lab ห้องทดลองแสนมหัศจรรย์นี้ก็ถือเป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงเลยครับ
Recommend Menu
– Hot Tea (pot 70 baht/cup 40 baht)
– Italian Soda (80 baht)
– Afternoon Tea Set (599 baht)
– Homemade Ice Cream (69 baht)
ขอขอบคุณ
ARTISTIC LAB
คุณ ณัฐกฤตา วังจันทร์ (ปิญน์)
คุณ วิชญา ศรีเรือนทอง (มิ้ง)
Address : จากสี่แยกรินคำ ตรงไปยังถนนซุปเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่-ลำปาง ร้าน Atistic Lab Café จะตั้งอยู่ในโครงการ เดอะ แคนนาส ซึ่งตั้งอยู่ซ้ายมือบนทางเบี่ยงก่อนถึงสี่แยกข่วงสิงห์ The Kannas Mini Mall, 308 Moo3, Chang Puek, Muang, Chiang Mai
Hours: Open today · 10AM–8PM
Phone: 053 218 097
Facebook : ArtisticLab.official