ไม่ใช่ทุกคนที่จะใช้น้ำหอมได้ดี แต่หากคุณรู้เคล็ดลับเหล่านี้ก็สามารถเป็นผู้เชี่ยวชาญได้ไม่ยาก
การใช้น้ำหอมนั้นเป็นการเสริมบุคลิกที่ดีอย่างหนึ่ง กลิ่นที่เลือกใช้สามารถบอกความเป็นตัวตนของเราไม่ก็สื่ออะไรบางอย่างออกไปให้คนรอบข้างได้รู้ แต่กระนั้นเลยก็มีหลายท่านเลิกใช้น้ำหอมไปด้วยหลายๆ สาเหตุ หรือแม้แต่ผู้ที่ใช้อยู่เป็นประจำก็อาจจะประสพปัญหาและพยายามทุกวิธีทางเพื่อให้ใช้น้ำหอมได้อย่างคุ้มค่าเงินที่สุด วันนี้เราจึงอยากนำเสนอ 10 เทคนิคที่จะดึงศักยภาพน้ำหอมของคุณให้ถึงขีดสุดทะลุหลอดรับรองว่าทำตามแล้วน้ำหอมของคุณจะแสดงบทบาทได้อย่างเต็มเปี่ยมอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนแน่นอนครับ
1. เก็บน้ำหอมอย่างถูกต้องก็ช่วยให้ใช้ได้นานขึ้น
ถ้าคุณต้องการให้น้ำหอมของคุณมีอายุการใช้งานยาวนานอย่าเก็บน้ำหอมไว้ในห้องน้ำหรือสถานที่ร้อนชื้น ความร้อนแสงแดดและความชื้นคือตัวการหลักในการลดคุณภาพของกลิ่น ที่ที่ดีที่สุดสำหรับการเก็บน้ำหอมคือเก็บไว้ในที่เย็นและแห้ง หลีกพ้นจากแสงแดดได้ยิ่งดี
เคล็ดไม่ลับ : ใช้แท่นสวย ๆ หรือถาดโลหะไว้สำหรับวางน้ำหอมรวมๆ กันจะทำให้เป็นระเบียบและดูสวยงามขึ้น
2. วาสลีนคือตัวเลือกยามฉุกเฉิน
การทำให้ผิวชุ่มชื้นก่อนฉีดน้ำหอมจะทำให้น้ำหอมติดทนนานขึ้นและส่งผลถึงคุณภาพกลิ่น แต่หากไม่มีเวลาบำรุงผิวใช้วาสลีนทาที่บริเวณที่จะฉีดน้ำหอมก่อนทิ้งไว้สักพักแล้วบรรจงฉีดน้ำหอมลงไปก็จะช่วยยืดเวลาการติดทนไปได้อีกหน่อย แต่ในทางกลับกันการฉีดน้ำหอมก่อนแล้วทาวาสลีนทับอันนี้ไม่สมควร เพราะจะทำให้ลำดับการกระจายกลิ่นของน้ำหอมผิดเพี้ยน
เคล็ดไม่ลับ : อยากให้จำไว้ว่าการบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นอยู่สม่ำเสมอคือทางรอดที่ดีที่สุดของคนชอบใช้น้ำหอม การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ไม่รุนแรงเกินไปคือการบำรุงผิวที่ดีที่สุด การใช้สบู่ธรรมดาหรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่รุนแรงควรใช้เฉพาะวันที่ร่างกายสกปรกมากๆ เช่นไปออกกำลังมาเป็นต้น ในวันธรรมดาเลือกใช้แค่ผลิตภัณฑ์ที่ไม่แรงก็พอครับ
3. หลังอาบน้ำคือช่วงเวลาที่ดีที่สุด
ฉีดน้ำหอมทันทีหลังจากอาบน้ำ ความชื้นบนผิวจะช่วยให้น้ำหอมติดทน แต่ก่อนฉีดถ้าผิวยังแห้งอยู่อาจจะทาอะไรบำรุงก่อนซะหน่อยก็ดีครับ
เคล็ดไม่ลับ : ฉีดในขณะไม่สวมอะไรเลยคือดีที่สุด นอกจากน้ำหอมจะติดผิวได้อย่างทั่วถึงแล้ว น้ำหอมยังไม่ไปทำให้เสื้อผ้าเป็นด่างหรือเครื่องประดับหม่นหมองอีกด้วยครับ
4. วัฒนธรรมเรื่องการถูข้อมือนั้นคือเรื่องที่ผิด
อย่าถูข้อมือหรือพยายามถูบริเวณที่พ่นน้ำหอมหลังจากฉีดพ่น การถูบริเวณที่ฉีดน้ำหอมคือการเร่งความร้อนให้เกิดขึ้น แน่นอนว่ากลิ่นจะแรงขึ้นแต่โน้ตของน้ำหอมก็จะเพี้ยนและจางหายเร็วกว่าที่ตั้งใจไว้
เคล็ดไม่ลับ : ถ้าอยากจะถูจริงๆ แนะนำว่าให้ถูก่อนฉีดจะดีกว่าฉีดแล้วถูครับ
5. จุดชีพจรคือจุดที่ควรฉีดน้ำหอม
การฉีดน้ำหอมตามจุดชีพจรคือสิ่งที่ถูกต้อง แต่ควรฉีดทั้งซ้ายและขวาเพื่อความสมดุลของการกระจายกลิ่น เลือกจุดชีพจรอย่างต่ำสองคู่หรือมากกว่านั้นตามความพอใจแต่ให้ระวังกลิ่นที่รุนแรงเกินไปอาจส่งผลถึงคนรอบข้าง
เคล็ดไม่ลับ : บริเวณข้อเท้าและน่อง เป็นอีกจุดที่คนไม่รู้ ซึ่งการฉีดบริเวณต่ำจะช่วยให้กลิ่นเพิ่มขึ้นและกระจายได้ดีตลอดทั้งวัน
6. สเปรย์กลางอากาศไม่ใช่เทคนิคสำหรับทุกกลิ่น
สำหรับน้ำหอมกลิ่นอ่อนๆ มีเทคนิคการใช้ที่ต่างออกไป การฉีดเฉพาะจุดชีพจรอาจจะไม่เพียงพอต่อการกระตุ้นกลิ่น การเพิ่มพื้นที่การกระจายด้วยการพ่นน้ำหอมไปในอากาศและค่อยๆเดินหมุนตัวเข้าไปจะทำให้กลิ่นกระจายตัวทั่วร่างของคุณ
เคล็ดไม่ลับ : อีกจุดหนึ่งที่จะช่วยให้น้ำหอมกระจายตัวได้ดีคือเส้นผม แต่ให้แน่ใจว่ากลิ่นนั้นไม่แรงเกินไปเพราะถ้ากลิ่นน้ำหอมแรงมาเจอเส้นผมจะยิ่งส่งกลิ่นแรงซึ่งนั่นหมายถึงความรำคาญต่อผู้คนโดยรอบ
7. แอลกอฮอล์ทำลายเส้นผม
ต่อเนื่องจากข้อ 6 การพ่นน้ำหอมที่มีแอลกอฮอล์โดยตรงลงบนเส้นผมจะทำให้ผมแห้งกรอบ ดังนั้นแทนที่จะฉีดใส่ผมโดยตรงควรฉีดพ่นน้ำหอมลงบนแปรงหวีผมก่อนแล้วจึงนำหวีมาหวีผมอีกทีจะดีกว่า
เคล็ดไม่ลับ : หากอยากบำรุงผมไปด้วยและมีกลิ่นหอมไปด้วยให้เลือกใช้น้ำหอมเบสน้ำมัน โดยมากจะเป็นเบสน้ำมันมะพร้าวซึ่งมีวิตามิน E สูง วิตามิน E จะบำรุงเส้นผมและหนังศรีษะให้เงางาม แต่ก็ไม่ควรฉีดผมตรงๆ เช่นกันเพราะจะทำให้ผมมันเกินไป สุดท้ายอย่าลืมหมั่นล้างทำความสะอาดหวีด้วยนะครับ
8. Layering คือความสนุก
สร้างเอกลักษณ์เฉพาะของคุณเองโดยการ Layering เป็นงานยากที่จะรู้ว่าน้ำหอมไหน Layer กับน้ำหอมไหนแล้วดี? วิธีที่ดีที่สุดคือการทดลอง เราสามารถทดลองสเปรย์น้ำหอมทีละน้อยทีละคู่ลงในภาชนะเดียวกันหรือกระดาษทดสอบกลิ่นสองแผ่นแล้วลองดมดู เมื่อเจอคู่ร่วมที่พอใจจึงค่อยทดสอบฉีดร่วมกันลงบนผิวหนังของคุณ
เคล็ดไม่ลับ : สเปรย์กลิ่นที่แรงก่อนจากนั้นจึงตามด้วยกลิ่นอ่อนๆ การ Layer ที่ดีมักเกิดจากการร่วมกันระหว่างกลิ่นที่มีความรุนแรงแตกต่างกัน
9. สำลีคือตัวช่วยแบ่งเบา
วิธีง่ายๆ หากคุณไม่อยากพกขวดน้ำหอมสุดรักไปเติมให้ตัวเองระหว่างวัน ใช้สำลีหรือคอตตอนบัดสเปรย์น้ำหอมลงไปพอชุ่ม นำสำลีหรือคอตตอนบัตที่มีน้ำหอมใส่ถุงซิบล็อค เมื่อจะเติมก็นำสำลีหรือคอตอนบัดจากถุงซิบล็อคมาแตะๆ แค่นี้ก็ยืดเวลาหอมฟุ้งแบบเก๋ๆ ไปได้อีกมากโขแถมไม่หนักกระเป๋าเป็นคนบ้าหอบฟางด้วย
เคล็ดไม่ลับ : การเก็บน้ำหอมหากไม่มีงบซื้อตู้เฉพาะสำหรับเก็บน้ำหอมสามารถนำน้ำหอมเก็บในถุงซิบล็อคแล้วใส่ถุงกันชื้นไว้ในซิบล็อคด้วยก็ถือเป็นวิธีฉลาดๆ ที่ทำให้เราดูสมาร์ทขึ้นเป็นกอง
10. เสื้อผ้าที่หอมก็เข้าท่าดี
อยากให้เสื้อผ้าหอมก็ลองเอาสำลีฉีดน้ำหอมให้ชุ่มแล้วไปวางไว้ในตู้เสื้อผ้าหรือลิ้นชักใส่เสื้อผ้าดูสิ แค่นี้ก็ทำให้เสื้อผ้าคุณหอมกระจุยมากกว่าน้ำยาปรับผ้านุ่มเป็นไหนๆ แต่อาจต้องใช้เวลาอบสักพักใหญ่ๆ หน่อยนะครับ
เคล็ดไม่ลับ : ไม่ใช่น้ำหอมทุกตัวที่เหมาะกับเสื้อผ้านะครับ ระวังน้ำหอมที่มีส่วนผสมของน้ำมันอาจทำให้เสื้อผ้าเป็นรอยด่างได้ หากไม่แน่ใจให้นำสำลีชุบน้ำหอมห่อทิชชู่อีกชั้น
คราวหน้าถ้าจะใช้น้ำหอมลองหยิบเทคนิคเหล่านี้ไปใช้ดูนะครับ แต่ไม่ว่าจะเทคนิคแพรวพราวขนาดไหนการเลือกใช้น้ำหอมที่เข้ากับตัวเราเองและถูกกาลเทศะก็ถือเป็นเรื่องดีที่สุด การใช้ตามกระแสหรือไม่ได้ลองก่อนซื้อถือเป็นเรื่องไม่สมควรอย่างยิ่ง หากตัดสินใจจะใช้น้ำหอมแล้วควรมีเวลาให้เขาสักนิดแล้วเราจะเข้าใจเขามากขึ้นครับผม
ขอขอบคุณ
http://www.cosmopolitan.com
https://www.wikipedia.org/