26
“เราจะเลือกน้ำหอมอย่างไรให้ถูกใจคุ้มค่าคุ้มราคา?”
12 October 2024
HIGHLIGHTS:
– ปริมาณน้ำหอมกำหนดความแตกต่าง
– โทนกลิ่นหลากหลายควรเลือกให้ถูกกับการใช้งาน
– กาลเทศะกับน้ำหอมนั้นสำคัญ
– พีระมิดกลิ่นไม่ได้บอกส่วนผสม
– กระดาษดมน้ำหอมเป็นตัวช่วยที่ดี
– ดีที่สุดคือการทดลองกลิ่นบนผิว
– อย่าเลือกน้ำหอมเมื่อจมูกไม่พร้อม
– ความปลอดภัยเช็คได้จากฉลากหลังกล่อง
– นิชแบรนด์ อินดี้แบรนด์ ดีไซเนอร์แบรนด์ คำเหล่านี้ไม่ได้เป็นการการันตีเสมอไป
บุคลิกภาพและการแต่งตัวเป็นเรื่องสำคัญที่จะทำให้คุณดูมีสไตล์ น้ำหอมก็ถือเป็นเครื่องสร้างภาพลักษณ์ที่ดีได้แต่ความยากคือน้ำหอมมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น เหตุนี้เองจึงเป็นเรื่องยากที่จะเลือกน้ำหอมสักกลิ่นให้ตรงกับความต้องการ
มีหลายทฤษฏีที่มักเปรียบน้ำหอมกับการสวมใส่เสื้อผ้าซึ่งทั้งน้ำหอมและเสื้อผ้าแท้ที่จริงทำหน้าที่เหมือนกัน ถึงแม้ว่าทั้งสองอย่างจะเป็นเครื่องใช้เพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้โดดเด่นแต่วิธีเลือกน้ำหอมนั้นไม่เหมือนวิธีเลือกเสื้อผ้า สาเหตุเพราะน้ำหอมนั้นเป็นวัตถุทางเคมีซึ่งมีปฏิกิริยาหลากหลายสามารถแปรผันได้มากมาย ดังนั้นในบทความนี้จึงอยากชวนมาศึกษาเรื่องน้ำหอมเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องก่อนตัดสินใจซื้อ
รูปแบบของน้ำหอมกำหนดโดยปริมาณหัวน้ำหอม
เวลาซื้อน้ำหอมมักจะได้ยินคำถามบ่อยๆ ว่า ต้องการน้ำหอมแบบไหน?
สำหรับมือใหม่อาจจะงุนงงและสงสัยว่าน้ำหอมมีหลายแบบหรือ? แต่แท้ที่จริงคำถามนี้กำลังพูดถึงปริมาณหัวน้ำหอมในสูตรซึ่งมีผลต่อการแสดงกลิ่นของน้ำหอมนั้นเอง ปริมาณความเข้มข้นของหัวน้ำหอมในแบบสากลแบ่งเป็น 3 ประเภท
- Eau de Parfum (EDP)
เป็นน้ำหอมที่มีความเข้มข้นของหัวน้ำหอมค่อนข้างสูง กลิ่นติดทนประมาณ 6-8 ชั่วโมง รูปแบบของกลิ่นจะหนาหนัก เข้มข้นชัดเจน จนบางครั้งอาจถึงขั้นฉุนได้ถ้าคุมจำนวนสเปร์ยไม่ดี เหมาะกับการแต่งตัวไปงานในที่สาธารณะในสภาพแวดล้อมที่มีลมถ่ายเทสะดวก
- Eau de Toilette (EDT)
หลายคนอาจสงสัยคำว่า Toilette ที่แปลว่าห้องน้ำเกี่ยวอะไรกับน้ำหอม แท้ที่จริงนี่เป็นคำแสลงซึ่งเกิดจากน้ำหอมชนิดนี้นิยมในหมู่ผู้ชาย พฤติกรรมของผู้ชายส่วนใหญ่มักแต่งหน้า โกนหนวด แต่งผม รวมถึงฉีดน้ำหอมในห้องทำให้ต่อมามักเรียกน้ำหอมของผู้ชายว่า EDT นั่นเอง ปริมาณหัวน้ำหอมของ EDT มีไม่มากไม่น้อยเกินไป ความเข้มของกลิ่นรวมถึงการกระจายตัวจึงอยู่ในค่ากลางๆ ความติดทนหวังผลได้ประมาณ 4-6 ชั่วโมง
- Eau de Cologne (EDC)
คำนี้แปลตรงๆ ได้ว่า น้ำหอมของเมืองโคโลญจน์ สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะในเชิงประวัติศาสตร์ สูตร EDC ถูกคิดค้นที่ เมืองโคโลญจน์ ประเทศเยอรมันนีนั่นเอง จุดกำเนิดของ EDC มีความแตกต่างจากน้ำหอมประเภทอื่นอยู่สักหน่อยคือเป็นผลิตภัณฑ์ที่เอาไว้ฆ่าเชื้อในสมัยที่เกิดโรคระบาดหนัก ดังนั้นน้ำหอม EDC จึงถูกออกแบบมาไม่ให้มีความติดทนเพื่อที่จะได้ใช้บ่อยๆ ระหว่างวัน แต่ปัจจุบันน้ำหอมโคโลญจน์ถูกพัฒนาให้ติดทนมากขึ้นประมาณ 1-3 ชั่วโมง เป็นที่นิยมในบ้านเมืองเขตร้อนเนื่องจากมีกลิ่นสดชื่นผ่อนคลาย
หมายเหตุ- วิวัฒนาการของวงการน้ำหอมทำให้เกิดรูปแบบใหม่ๆ เช่น Eau Fraiche, Parfum, Extrait ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของการนำเสนอของแต่ละแบรนด์ ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อพิจารณาความเหมาะสมก่อนตัดสินใจซื้อ
ตระกูลกลิ่น
มีการพยายามแบ่งตระกูลกลิ่นเป็นลักษณะต่างๆ อย่างหลากหลาย แต่ในวงการน้ำหอมมักนิยมอ้างอิงจาก Fragrance Wheel ของคุณ Michael Edwards ซึ่งสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1992 โดยอ้างอิงมาจากอารมณ์ของกลิ่นหอมซึ่งแบ่งเป็นหมวดใหญ่ๆ ได้ 4 หมวดใหญ่และย่อยลงไปอีก 14 หมวดย่อย ในที่นี้ขออธิบายอารมณ์พื้นฐานของ 4 หมวดใหญ่ให้เข้าใจก่อนดังนี้
Floral- กลิ่นดอกไม้หรือจริงๆ คือโทนกลิ่นอ่อนหวานแสดงถึงความเป็นผู้หญิงความอ่อนโยนเปรียบเป็นสีได้กับโทนพาสเทล หากต้องการแต่งตัวให้ดูเป็นธรรมชาติสบายๆ หรือเรียบหรูกลิ่นโทนดอกไม้นี้ถือว่าเหมาะสม
Amber(ในอดีตเรียกกลุ่มนี้ว่า Oriental)- กลิ่นอำพันแสดงถึงความเย้ายวน อบอุ่น และยังเป็นกลิ่นที่นิยมในปัจจุบัน ด้วยประสิทธิภาพที่ดีทั้งในแง่กลิ่นชัดแรงและติดทนทำให้น้ำหอมดังหลายๆ ตัวมีกลิ่นอำพันสอดแทรกบ่อยครั้ง
Woody- ตระกูลไม้มีกลิ่นที่หนักแน่น ภูมิฐานและหรูหรา การกระจายตัวไม่มากแต่ติดทน โทนของกลิ่นไม้เดี่ยวๆ ส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มกลิ่นท้าย(Base Note) ดังนั้นน้ำหอมตระกูลนี้มักจะเป็นการเข้าร่วมกับตระกูลอื่นๆ เพื่อเพิ่มเติมกลิ่นช่วงเปิด(Top Note) ที่ขาดหาย
Fresh- กลิ่นตระกูลสดชื่นประกอบด้วยกลิ่นที่รุนแรงรวมกับความผ่อนคลาย ถ้าพูดถึงกลุ่มกลิ่น Fresh เดี่ยวๆ ก็มักจะเป็นกลิ่นที่เอนน้ำหนักมาทางช่วงกลิ่นเปิด(Top Note) ไปจนถึงกลิ่นกลาง(Middle Note) บ่อยครั้งเราจึงพบโครงสร้างน้ำหอม Fresh เข้าร่วมกับกลุ่มกลิ่นอื่นที่หนักกว่าอย่าง Woody, Amber, Mossy กลิ่นสดชื่นครอบคลุมความหมายที่กว้างแท้จริงยังอาจหมายถึงกลิ่นสมุนไพร น้ำทะเล หรือผลไม้ ก็ถือว่าเป็นกลิ่นสดชื่นได้เช่นกัน
ในแง่ของนักปรุงน้ำหอมการพูดถึงตระกูลกลิ่นมักหมายถึงโครงสร้างกลิ่น เมื่อทราบรายละเอียดของโครงสร้างกลิ่นแล้วก็สามารถปรับปรุงข้อด้อยเพิ่มข้อเด่นของกลิ่นที่สร้างได้ เราจะพบเห็นว่าน้ำหอมยุคปัจจุบันจะเป็นกลิ่นที่ซ้อนทับกันของหลากหลายตระกูล ทำให้มีทั้งมิติทางกลิ่นที่ดีและยังเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานได้อีกด้วย
วงจรอารมณ์ของกลิ่นนี้เองยังช่วยให้เราเลือกน้ำหอมมา Layer กันได้ถูกต้องและสวยงามมากขึ้น กล่าวคือตระกูลกลิ่นที่อยู่ใกล้กันใน Fragrance Wheel จะมีแนวโน้มส่งเสริมและกลิ่นไม่รบกวนกัน ดังนั้นหากคุณจะเลือก Layer กลิ่นอย่าลืมเช็ค Fragrance Wheel ให้แน่ใจเพื่อสร้างความแตกต่างที่กลมกล่อมเป็นเอกลักษณ์
กาลเทศะกับกลิ่นหอม
หากอยากดูเป็นมืออาชีพเราไม่ควรมีน้ำหอมเพียงกลิ่นเดียว น้ำหอมทุกกลิ่นถูกออกแบบมาให้เหมาะสมแค่เฉพาะบางโอกาสเท่านั้น การใช้งานที่ไม่ได้อ่านบรรยากาศล่วงหน้าอาจสร้างปัญหาให้กับคุณมากกว่าที่คิด สิ่งที่ควรคำนึงหลักๆ มีดังนี้
ช่วงเวลา- กลิ่นบางอย่างบ่งบอกถึงอารมณ์สดชื่นช่วงเช้า การได้กลิ่นเช่นนี้ช่วงกลางคืนอาจชวนสับสนเชิงบรรยากาศ ในขณะเดียวกันกลิ่นบางกลิ่นก็ผ่อนคลายเสียจนชวนนอนหลับ การฉีดกลิ่นแบบนี้ในช่วงทำงานอาจทำให้ประสิทธิภาพร่างกายลดลง
สภาพอากาศ- ความร้อนเป็นตัวเร่งการกระจายตัว ความชื้นเป็นตัวกดการกระจายตัว การวางแผนการใช้งานน้ำหอมให้ดีเหล่านี้จะทำให้คุณดูมีรสนิยมที่ฉลาดมากขึ้น
คู่สนทนา- เราอาจจะนึกเสมอว่าการฉีดน้ำหอมควรเลือกสิ่งที่เราชอบ แต่จริงๆ ควรนึกถึงผู้ที่จะได้กลิ่นจากเราด้วย ยิ่งฝั่งตรงข้ามมีอิทธิพลกับเรามากเท่าไรยิ่งต้องระวัง เช่น การฉีดน้ำหอมกลิ่นแรงไปนั่งประชุมกับหัวหน้า การฉีดน้ำหอมกลิ่นหนาหนักไปออกกำลังกับเพื่อน น้ำหอมที่ดีจริงๆ จึงควรเป็นน้ำหอมที่เราชอบและผู้คนรอบข้างไม่ลำบากใจไปกับเราด้วย
การอ่านโน๊ตน้ำหอมจากพีระมิดกลิ่น
สิ่งที่ทำให้เราสามารถคาดคะเนกลิ่นก่อนดมได้คือโน๊ตกลิ่นซึ่งมักจะถูกจัดทำอยู่ในรูปแบบของ ‘พีระมิดกลิ่น’ แนวคิดนี้ถูกสร้างขึ้นโดยคุณ Jean Carles ว่าด้วยการแยกช่วงเวลาที่จมูกจะได้รับกลิ่นจากน้ำหอม 3 ลำดับ
พีระมิดกลิ่นไม่ได้แสดงวัตถุดิบที่อยู่ในสูตรแต่แท้จริงพีระมิดกลิ่นแสดงถึงกลิ่นที่สัมผัสได้ด้วยจมูก
แล้วทำไมถึงเป็นเช่นนั้น? เหตุผลเพราะว่าสารหอมทั้งหลายเมื่อรวมกันในสูตรน้ำหอมแล้วมีการจัดเรียงโครงสร้างใหม่เสมอ กลิ่นที่เกิดเป็นน้ำหอมจึงเป็นผลลัพธ์จากการรวมตัวของสารหอมต่างๆ คุณอาจจะได้กลิ่นน้ำผึ้งซึ่งจริงๆ มีต้นกำเนิดมาจากกลิ่นโป๊ยกั๊ก คุณอาจจะได้กลิ่นมะลิแต่แท้ที่จริงมาจากกลิ่นเหม็นอย่าง Indole รวมกับกลิ่นเขียวกับกลิ่นหวาน
จมูกมนุษย์รับรู้ได้แต่ผลลัพธ์ทางกลิ่นแต่ไม่สามารถแยกแยะต้นกำเนิดกลิ่น การอ่านพีระมิดทำให้เรารู้ว่าจะได้กลิ่นอะไรเป็นลำดับแรก ตามด้วยกลิ่นอะไร จบด้วยกลิ่นอะไร
Top Note
เป็นกลิ่นที่ระเหยออกมาเมื่อฉีดน้ำหอมในช่วงแรก ส่วนใหญ่เป็นแนวกลิ่นสดชื่นพุ่งแหลม
Middle Note
กลิ่นของน้ำหอมเมื่อกระจายกลิ่นเต็มที่ เป็นช่วงที่บ่งบอกภาพรวมของกลิ่นน้ำหอมได้อย่างชัดเจน
Base Note
เป็นกลิ่นที่ติดผิวได้นานที่สุดและมักผสมเข้ากับกลิ่นผิวของผู้ใช้กลายเป็น Sillage
หมายเหตุ- โน๊ตกลิ่นที่พบเห็นมักเป็นการตลาดควรพิจารณาเป็นแนวทางและทดลองดมด้วยตัวเองก่อนตัดสินใจซื้อทุกครั้ง
เทคนิคการทดสอบน้ำหอมบนกระดาษดม
ความยากในการเลือกน้ำหอมคือจำนวนน้ำหอมในท้องตลาดที่มีเยอะแยะมากมาย เราไม่สามารถเอาน้ำหอมทุกกลิ่นมาทดสอบบนผิวได้ ดังนั้นจึงเกิดวิธีการใช้กระดาษทดสอบเป็นตัวช่วยในการพิจารณากลิ่นน้ำหอม
กระดาษดมน้ำหอมมีคุณสมบัติในการดูดซึมน้ำหอมได้ดี ไม่ดึงกลิ่น ไม่มีกลิ่นกระดาษรบกวน ไม่ทำให้กลิ่นน้ำหอมเพี้ยน กระดาษประเภทนี้จะเป็นชนิด acid free และมีเยื่อธรรมชาติอยู่ในเนื้อกระดาษราวๆ 50% หรือมากกว่า ความหนา 180-200 แกรม
การทดสอบน้ำหอมควรฉีดให้เหมือนฉีดใช้จริงกล่าวคือฉีดให้ครอบคลุมพื้นที่ของกระดาษ ไม่ฉีดมากไปและก็ไม่ฉีดน้อยเกินไป การดมให้ดมห่างจากจมูกสักเล็กน้อยประมาณ 2-3 นิ้ว โบกไปมาเพื่อให้ได้สัมผัสเนื้อกลิ่นจริงๆ ยามที่น้ำหอมลอยตัวอยู่ในอากาศ
จากน้ำหอมมากมายเมื่อทดสอบด้วยกระดาษแล้วจะเหลือกลิ่นที่ชอบอยู่จำนวนหนึ่งแต่อย่าพึ่งตัดสินใจซื้อเนื่องจากน้ำหอมนั้นจะมีกลิ่นเปลี่ยนไปตามสภาพผิวผู้ใช้ ให้หาโอกาสทดลองน้ำหอมลงบนผิวจริงอีกครั้ง
การทดลองน้ำหอมบนผิว
มีสำนวนที่ว่า ‘เราไม่ได้เลือกน้ำหอมแต่น้ำหอมต่างหากที่เลือกเรา’ ข้อนี้เป็นจริงเนื่องจากน้ำหอมสามารถทำปฏิกิริยาเคมีกับผิวผู้ใช้ได้ ถ้าน้ำหอมเข้ากันดีกับผิวผู้ใช้ก็จะมีทั้งการกระจายตัว การติดทน เต็มประสิทธิภาพ อีกอย่างคือกลิ่นน้ำหอมไม่ผิดเพี้ยนจากเดิมและในหลายๆ ครั้งอาจเกิดกลิ่นใหม่เป็นกลิ่นเฉพาะตัวของเราก็เป็นได้
วิธีการทดสอบกับผิวให้ฉีดในจุดที่เรามักฉีดน้ำหอมก็คือจุดชีพจรนั่นเอง ตำแหน่งเหล่านี้จะมีเส้นเลือดฝอยอยู่มากใต้ผิวหนังส่งผลให้เกิดความร้อนมากกว่าบริเวณอื่นของผิว ทำให้น้ำหอมกระจายตัวดีและจุดชีพจรมักเป็นจุดที่เคลื่อนไหวบ่อย กลิ่นหอมจะกระจายตัวเป็นระยะๆ ตามการเคลื่อนไหวของร่างกาย
ไม่จำเป็นต้องฉีดทุกจุดของจุดชีพจรเพื่อป้องกันเผื่อกลิ่นนั้นไม่เข้ากับผิวเราจะได้ไม่รู้สึกเสียอารมณ์ ให็ฉีดลงบนข้อแขนสองข้างและหลังแผงคอสักหน่อยก็เพียงพอ ลองใช้ชีวิตอยู่กับกลิ่นหอมนั้นสัก 2-3 ชั่วโมง เพื่อให้เห็นการพัฒนาของกลิ่นน้ำหอมทั้งหมด ในบางครั้งเราอาจจะชอบกลิ่นเปิด(Top Note) แต่เมื่อถึงตอนจบ(Base Note) กลับรู้สึกแย่ เป็นเหตุให้สุดท้ายเราไม่หยิบจับน้ำหอมกลิ่นนั้นมาใช้อีกเลย
ภาวะจมูกล้า
สิ่งที่ต้องระวังคือการตัดสินน้ำหอมในขณะที่จมูกไม่พร้อม กายภาพของมนุษย์ไม่ได้มีความสามารถในการดมที่ดีมากนัก โดยปรกติจมูกคนเราจะมีความสามารถรับกลิ่นต่อเนื่องได้ไม่เกิน 15 นาที หากมากไปกว่านั้นความสามารถในการดมจะค่อยๆ แย่ลงจนกระทั่งถึงภาวะ ‘จมูกบอด(Anosmia)’
ภาวะนี้ไม่ได้ส่งผลอันตรายแต่จะทำให้เราไม่รู้สึกถึงกลิ่นในสภาพแวดล้อมหรืออาจจะยังหลงเหลือแค่บางกลิ่นที่สัมผัสได้แต่ก็เบาบาง การดมแต่พอดีจึงเป็นสิ่งที่ต้องคอยเตือนตัวเองอยู่เสมอ หากไม่ไหวก็ต้องพัก…..เรามักด่วนตัดสินใจหลังจากเลือกดมน้ำหอมเป็นเวลานาน ในจังหวะนั้นจมูกมักแยกแยะอะไรไม่ออกแล้วเราก็จะหาเหตุผลอื่นมาช่วยในการตัดสินใจแทนเช่น ราคา แบรนด์ โปรโมชั่น ของแถม เป็นต้น ถ้าให้แนะนำการเลือกน้ำหอมที่ดีที่สุดคือช่วงที่จมูกแข็งแรงที่สุดก็คือช่วงเช้าของวัน แต่หากทำแบบนั้นไม่ได้ก่อนเข้าไปเลือกน้ำหอมก็ควรดื่มน้ำเยอะๆ ให้แน่ใจว่าไม่มีกลิ่นอะไรค้างอยู่ในช่องปาก ทำใจให้เบิกบาน ดมและอ่านข้อมูลโน๊ตเพื่อช่วยให้เข้าใจกลิ่นน้ำหอมได้ง่ายขึ้น
หมายเหตุ- การดมเมล็ดกาแฟไม่ได้ทำให้จมูกกลับมาสมบูรณ์พร้อมสำหรับการดมน้ำหอมแต่เป็นเพียงแค่การกระตุ้นชั่วคราว หลังถูกกระตุ้นด้วยเมล็ดกาแฟแล้วจมูกจะรับกลิ่นได้อีกครั้งแต่ก็ไม่เทียบเท่าตอนปรกติ
อ่านฉลากให้เข้าใจปลอดภัยไว้ก่อน
มักมีคำถามว่าน้ำหอมนี้เป็นอันตรายหรือไม่? ข้อนี้เองเป็นเหตุให้ผู้ใช้น้ำหอมหลายท่านยอมจ่ายให้กับแบรนด์ดังๆ มากกว่าซื้อน้ำหอมจากแบรนด์ใหม่ๆ เพราะกลัวไม่ได้มาตรฐานความปลอดภัย
ความเป็นจริงแล้วในประเทศไทยสินค้าน้ำหอมถูกจัดอยู่ในหมวดเดียวกับเครื่องสำอางดังนั้นจำเป็นต้องสำแดงฉลากในแพคเกจจิ้ง น้ำหอมที่ปลอดภัยจะอยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงสาธารณสุขมีเลขที่จดแจ้ง ชื่อผูุ้ผลิตและชื่อผู้จัดจำหน่ายแสดงอย่างชัดเจนตรวจสอบได้
เรายังสามารถดูส่วนผสมเบื้องต้นซึ่งจะแสดงสารต่างๆ ให้พิจารณาจากฉลากได้อีกด้วย เรื่องหนึ่งที่ต้องระวังคือการซื้อน้ำหอมที่หลีกเลี่ยงภาษีถือว่าผิดกฏหมาย เพื่อความมั่นใจในเรื่องกฏหมายและความปลอดภัยอย่าลืมเช็คฉลากน้ำหอมก่อนซื้อว่ามีข้อมูลครบถ้วนถูกต้องหรือไม่ รายละเอียดเบื้องต้นที่ต้องสำแดงคือ ชื่อผลิตภัณฑ์, ส่วนผสม, ผู้ผลิต, ผู้จัดจำหน่าย, ปริมาณ, วิธีใช้ และเลขที่จดแจ้ง
น้ำหอมนิช อินดี้ ดีไซเนอร์ คืออะไร?
แบรนด์น้ำหอมมักจะมีคำกล่าวอ้างถึงตัวเองไปต่างๆ นาๆ เพื่อประกอบการอธิบายความพิเศษของสินค้า แต่แท้ที่จริงชนิดของแบรนด์เหล่านี้บ่งบอกถึงรูปแบบการผลิตน้ำหอมนั่นเอง
Niche brand- อธิบายโดยสรุปคือแบรนด์น้ำหอมที่มีความพิเศษ ผลิตขึ้นด้วยตัวแบรนด์เองทั้งหมดตั้งแต่การคิดค้นพัฒนาและมีกลิ่นเฉพาะเป็นเอกลักษณ์
ทำไมแบรนด์นิชถึงมักแพงกว่าแบรนด์ชนิดอื่น?
เหตุผลหลักๆ เพราะว่าแบรนด์ชนิดนี้มีกำลังผลิตที่ค่อนข้างเล็กทำให้ต้นทุนการผลิตสูงกว่าการผลิตล๊อตใหญ่ๆ ในระดับอุตสาหกรรมแต่ข้อดีก็คือมีความแตกต่างอย่างโดดเด่นในด้านกลิ่นหอม เทคนิควิธีการ
Indy brand- มักจะเป็นคำเรียกแบรนด์ที่มีกลิ่นแปลกแยกจากกระแสหลัก ไม่เป็นไปตามกระแสสังคม มีการนำเสนอกลิ่นที่เป็นเฉพาะจากมุมมองบางอย่างของผู้ผลิต รวมถึงในบางครั้งอาจจมีการใช้วัตถุดิบพิเศษ วัตถุดิบใหม่ซึ่งไม่ได้ระบุอยู่ในรายการสารหอมของระบบอุตสาหกรรมหลักสากล เช่น ผลิตภัณฑ์ที่มาจากสัตว์ พืชเฉพาะถิ่งหายาก หรือวัตถุดิบที่เกิดจากการสกัดด้วยวิธีเฉพาะของผู้สร้างเอง เป็นต้น
Designer brand- ดีไซเนอร์แบรนด์เป็นการเรียกแบรนด์ที่มีดีไซเนอร์เป็นเจ้าของหรือทำงานร่วมกันและภายในแบรนด์มักจะมีสินค้าชนิดอื่นประกอบอยู่ด้วย การทำงานจะเป็นการจัดจ้างทีมนักปรุงน้ำหอมจากภายนอกเป็นหลักโดยมีผู้เป็นดีไซเนอร์ร่วมในการแนะนำพัฒนาเพื่อให้กลิ่นน้ำหอมออกมาสอดคล้องกับภาพลักษณ์ของแบรนด์
เมื่อพิจารณาตามคำแนะนำเหล่านี้ย่อมลดความผิดพลาดในการเลือกน้ำหอม แต่อยากให้จำไว้เสมอว่าน้ำหอมนั้นเกิดจากโมเลกุลเคมีที่ซับซ้อน ยิ่งน้ำหอมที่หายากมีราคาแพงย่อมมีเทคนิคที่ไม่ธรรมดา สุดท้ายเพื่อให้แน่ใจควรมีเวลาอยู่กับน้ำหอมกลิ่นที่คาดหวังนั้นในหลายๆ สถานการณ์ หากยังมีความสุขกับกลิ่นหอมนี้อยู่ก็ขอแสดงความยินดีด้วยว่าคุณได้พบเจอน้ำหอมที่ใช่สำหรับคุณแล้ว
สามารถรับฟังแบบคลิปได้ที่: https://www.facebook.com/PerfumeArtisanValley/videos/187512433101392/?mibextid=zDhOQc
บทความโดย: Artisan Valley
เรียบเรียงโดย: ฉัตรนิธิศวร์ จันทาพูน
ตรวจทานโดย: กนกรักษ์ บุญรัตน์